เสียงส่วนใหญ่มันคือสิทธิที่ควรจะมี ควรจะได้ ตามระบอบประชาธิปไตย มันมาจากเสียงส่วนใหญ่ของ ปชช มันจึงถูกต้อง มันถูกมันควรแล้วไม่ใช่หรอ
หรือจะให้เขียนกติกาใหม่ว่าเสียงส่วนน้อยควรชนะโหวต ตีเสียงส่วนใหญ่ให้ตกได้ แล้วเสียงส่วนใหญ่ควรทำตาม ก็ให้เขียนขึ้นมาใหม่เลยไม่ดีกว่าหรอ จะน้อมรับเอง ยอมรับ เข้าใจตรงกันใหม่
ถ้าคิดว่าเสียงส่วนน้อยควรชนะ จะเกิดการแข่งขันได้อย่างไร ต้องไปรวมเอาเสียงส่วนใหญ่มาทำไม งั้นสมมุติผมคนเดียว คือเสียงส่วนน้อย และน้อยจริงๆ ผมไม่ชอบเสียงส่วนใหญ่ตรงไหนผมก็จัดการได้เลยใช่ไหม ตีตกได้หมดเลยใช่ไหม ผมจะทำ คงทำไม่ได้ เพราะควรต้องเคารพปัญหาและความต้องการของสังคมเสียงมากจริงๆ
แต่อาจไม่แน่ถ้าผมเป็นเสียงส่วนน้อยที่มีอำนาจล้นมือ วันนั้นผมอาจตามความต้องการผมก็เป็นได้
คนเรารวมกันอยู่เป็นสังคม คนหมู่มาก ผลประโยชน์ ปัญหามันเยอะ ความขัดแย้งมันย่อมเกิด เเต่หลักการที่ถูกต้องคือเสียงส่วนใหญ่มันสะท้อนปัญหาได้ดีสุด สะท้อนความต้องการคนหมู่มากได้ดีสุด เพราะรวบรวมปัญหา ความต้องการเอาไว้ได้เยอะที่สุดแล้ว ผลลัพธ์ที่จะเกิดที่จะกระทบก็จะเกิดต่อคนหมู่มากที่สุด เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุดเช่นกัน
ส่วนเสียงส่วนน้อยที่มีคุณภาพก็มีความสำคัญ สังคมเสียงส่วนมากไม่เคยเมินเฉยตรงนี้ได้เช่นกัน ขอแค่เสียงส่วนน้อยนั้นมีคุณภาพ ชี้แจ้ง ชี้แนะ สะท้อนปัญหาได้ดีได้เยี่ยม ไม่ใช่มั่ว สาดโคลน ตามความต้องการตน เสียงส่วนน้อยนั้นต้องทำให้สังคมตระหนักและยอมรับ เชื่อถือให้ได้แค่นั้น คุณเป็นเสียงส่วนน้อยก็ทำงานไปซิ ทำให้เต็มที่ ทำให้สุดความสามารถ ทำให้มีประสิทธิภาพ ค่าของคนอยู่ที่งาน ถ้าดีจริง ทำได้จริง ชี้ให้เห็นถึงปัญหาจริงๆ ประชาชนเสียงส่วนใหญ่เค้ารอฟังอยู่ กระแสสังคมเสียงส่วนใหญ่ก็ช่วยสนับสนุนได้เอง เสียงส่วนน้อยก็บรรลุเป้าหมายได้เช่นกัน ( พรบ สุดซอยก็เสียงส่วนน้อยจุดกระแสให้เกิดกระแสสังคมสนับสนุนเองแค่นั้น) แต่ไม่ควรให้เสียงส่วนน้อยที่ไม่ยึดโยงเสียงประชาชน เช่น ศาล รธน องค์กรอิสระ ไม่กี่เสียงสามารถตีแสกหน้านายก หรือใครก็ตามที่มาเสียงส่วนใหญ่ให้หล่นได้ตามใจชอบ แบบนี้มันก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง
หารู้ไหมที่น่ากลัวที่สุดคือเสียงน้อยที่อำนาจล้นมือ พบว่ายิ่งถ้าเสียงนั้นยิ่งน้อยลงเท่าไหร่ และมีอำนาจมากเท่าไหร่ แต่กลับทำได้ทุกอย่าง แบบนั้นจะกระทบต่อทุกฝ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างนั้นเค้าเรียก ผดก ของจริง
เพราะสามารถกำหนดได้ทุกอย่าง ชี้ชะตาได้ทุกสิ่ง ต่อไปทุกเสียง ไม่ว่าเสียงไหนทั้งหมดในประเทศ จะแตกไปกี่ทาง กี่เหล่า ทั้งเสียงน้อย เสียงมาก ก็ไร้ค่าขึ้นมาทันที
เรื่องแค่นี้ทำไมต้องมาพูด มาอธิบายกันไม่จบสิ้น ก็แค่คิดให้อยู่ในหลักการที่มันถูกต้องก็แค่นั้น
ไม่ใช่จะมาตะแบง ตะเเคงข้าง พูดข้างๆคูๆ มั่วไปทั่วแบบไร้หลักการ ให้เข้าใจยาก มึนงง ซับซ้อน สร้างความสับสนไปเพื่ออะไร
เผด็จการเสียงส่วนใหญ่ที่มาจากประชาชน มีจริงหรอ หรือวาทกรรมของคนแพ้
หรือจะให้เขียนกติกาใหม่ว่าเสียงส่วนน้อยควรชนะโหวต ตีเสียงส่วนใหญ่ให้ตกได้ แล้วเสียงส่วนใหญ่ควรทำตาม ก็ให้เขียนขึ้นมาใหม่เลยไม่ดีกว่าหรอ จะน้อมรับเอง ยอมรับ เข้าใจตรงกันใหม่
ถ้าคิดว่าเสียงส่วนน้อยควรชนะ จะเกิดการแข่งขันได้อย่างไร ต้องไปรวมเอาเสียงส่วนใหญ่มาทำไม งั้นสมมุติผมคนเดียว คือเสียงส่วนน้อย และน้อยจริงๆ ผมไม่ชอบเสียงส่วนใหญ่ตรงไหนผมก็จัดการได้เลยใช่ไหม ตีตกได้หมดเลยใช่ไหม ผมจะทำ คงทำไม่ได้ เพราะควรต้องเคารพปัญหาและความต้องการของสังคมเสียงมากจริงๆ
แต่อาจไม่แน่ถ้าผมเป็นเสียงส่วนน้อยที่มีอำนาจล้นมือ วันนั้นผมอาจตามความต้องการผมก็เป็นได้
คนเรารวมกันอยู่เป็นสังคม คนหมู่มาก ผลประโยชน์ ปัญหามันเยอะ ความขัดแย้งมันย่อมเกิด เเต่หลักการที่ถูกต้องคือเสียงส่วนใหญ่มันสะท้อนปัญหาได้ดีสุด สะท้อนความต้องการคนหมู่มากได้ดีสุด เพราะรวบรวมปัญหา ความต้องการเอาไว้ได้เยอะที่สุดแล้ว ผลลัพธ์ที่จะเกิดที่จะกระทบก็จะเกิดต่อคนหมู่มากที่สุด เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุดเช่นกัน
ส่วนเสียงส่วนน้อยที่มีคุณภาพก็มีความสำคัญ สังคมเสียงส่วนมากไม่เคยเมินเฉยตรงนี้ได้เช่นกัน ขอแค่เสียงส่วนน้อยนั้นมีคุณภาพ ชี้แจ้ง ชี้แนะ สะท้อนปัญหาได้ดีได้เยี่ยม ไม่ใช่มั่ว สาดโคลน ตามความต้องการตน เสียงส่วนน้อยนั้นต้องทำให้สังคมตระหนักและยอมรับ เชื่อถือให้ได้แค่นั้น คุณเป็นเสียงส่วนน้อยก็ทำงานไปซิ ทำให้เต็มที่ ทำให้สุดความสามารถ ทำให้มีประสิทธิภาพ ค่าของคนอยู่ที่งาน ถ้าดีจริง ทำได้จริง ชี้ให้เห็นถึงปัญหาจริงๆ ประชาชนเสียงส่วนใหญ่เค้ารอฟังอยู่ กระแสสังคมเสียงส่วนใหญ่ก็ช่วยสนับสนุนได้เอง เสียงส่วนน้อยก็บรรลุเป้าหมายได้เช่นกัน ( พรบ สุดซอยก็เสียงส่วนน้อยจุดกระแสให้เกิดกระแสสังคมสนับสนุนเองแค่นั้น) แต่ไม่ควรให้เสียงส่วนน้อยที่ไม่ยึดโยงเสียงประชาชน เช่น ศาล รธน องค์กรอิสระ ไม่กี่เสียงสามารถตีแสกหน้านายก หรือใครก็ตามที่มาเสียงส่วนใหญ่ให้หล่นได้ตามใจชอบ แบบนี้มันก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง
หารู้ไหมที่น่ากลัวที่สุดคือเสียงน้อยที่อำนาจล้นมือ พบว่ายิ่งถ้าเสียงนั้นยิ่งน้อยลงเท่าไหร่ และมีอำนาจมากเท่าไหร่ แต่กลับทำได้ทุกอย่าง แบบนั้นจะกระทบต่อทุกฝ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างนั้นเค้าเรียก ผดก ของจริง
เพราะสามารถกำหนดได้ทุกอย่าง ชี้ชะตาได้ทุกสิ่ง ต่อไปทุกเสียง ไม่ว่าเสียงไหนทั้งหมดในประเทศ จะแตกไปกี่ทาง กี่เหล่า ทั้งเสียงน้อย เสียงมาก ก็ไร้ค่าขึ้นมาทันที
เรื่องแค่นี้ทำไมต้องมาพูด มาอธิบายกันไม่จบสิ้น ก็แค่คิดให้อยู่ในหลักการที่มันถูกต้องก็แค่นั้น
ไม่ใช่จะมาตะแบง ตะเเคงข้าง พูดข้างๆคูๆ มั่วไปทั่วแบบไร้หลักการ ให้เข้าใจยาก มึนงง ซับซ้อน สร้างความสับสนไปเพื่ออะไร